ระดับอนุบาล
โรงเรียนพันธะวัฒนายึดการเรียนการสอนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการเป็นหลัก โดยเน้นพัฒนาการ 4 ด้านของนักเรียนได้แก่ ร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ประกอบกับการใช้เทคนิคการสอนแบบบูรณาการ โดยผสมผสานทฤษฎีและการปฏิบัติต่าง ๆ อย่างเหมาะสมกับการเรียนรู้และพัฒนาของเด็กปฐมวัย โดยคุณครูได้ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี ได้แก่
Active Learner
ซึ่งเป็นการฝึกให้เด็กได้ลงมือทำทุกอย่างด้วยตนเอง เป็นการช่วยเหลือดูแลตัวเองง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การหยิบเตรียมข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของตนเอง จัดระเบียบสิ่งของในห้องเรียนให้เรียบร้อย และการรับผิดชอบในหน้าที่อื่น ๆ ที่เด็กเล็กพึงทำได้ โดยคุณครูจะดูแลอย่างใกล้ชิดและฝึกเด็ก ๆ ตามความเหมาะสมของวัย ผู้ปกครองหลายท่านเกิดความประทับใจเมื่อเห็นพัฒนาการของลูกหลังจากได้รับการฝึกฝนที่โรงเรียน ว่าสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้เองที่บ้านโดยที่ผู้ปกครองไม่ต้องช่วยเหลือ
|
Montessori
ทางโรงเรียนได้จัดอุปกรณ์ กิจกรรมที่เอื้อให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง และนักเรียนจะเลือกทำกิจกรรมต่าง ๆ นั้นตามความสนใจของแต่ละคน และเน้นเรื่องการฝึกให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ให้สัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม นักเรียนจะสามารถเรียนรู้สิ่งรอบตัวได้อย่างอิสระและเพลิดเพลิน เกิดปัญญาจากการสังเกต และวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้น
|
Neo Humanist
เป็นการฝึกนักเรียนให้มองโลกในด้านบวก สร้างบรรยากาศการเรียนที่ผ่อนคลาย มีความสุข รวมถึงการให้ความรักความอบอุ่นจากคุณครูที่ดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นกันเอง การทานอาหารที่สะอาด ได้คุณค่าตามโภชนาการ การออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ และทำให้จิตใจสงบด้วยท่าโยคะง่าย ๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้คลื่นสมองต่ำ ซึ่งเป็นสภาวะที่เด็กสามารถเรียนรู้และซึมซับสิ่งต่าง ๆ ได้ดีที่สุด
Project Approach
เด็ก ๆ จะได้ทำกิจกรรนมหลากหลายโครงงานซึ่งสนุก ส่งเสริมความคิด สร้างจินตนาการ พัฒนาทักษะด้านสังคม การร่วมมือกันทำงานเป็นกลุ่ม ฝึกสมาธิ เสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต และได้ความรู้ไปในตัว
ตัวอย่างโครงงาน ได้แก่
- ตลาดนัดรุ่นจิ๋ว คือ การให้นักเรียนจับจ่ายใช้สอยในตลาดจำลอง เพื่อให้นักเรียนรู้จักการวางแผน หน่วยเงิน การทอนเงิน การบวกลบเลข
- กระปุกออมสินเปเปอร์มาเช่ คือ การประดิษฐ์กระปุมออมสินจากวัสดุเหลือใช้ ทำให้รู้จักการนำของเหลือใช้มารีไซเคิล การออม ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
- รูปทรงแสนสนุก คือ การสร้างสรรค์ผลงานจากรูปทรงเรขาคณิตต่าง ๆ ได้ฝึกฝนทักษะด้านศิลปะ เสริมความรู้เรื่องรูปทรงเรขาคณิต
- แปลงผักบุ้งของหนู คือ การปลูก ดูแลต้นผักบุ้งของตนเอง เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ฝึกความรับผิดชอบ รู้จักการรับประทานผักที่มีประโยชน์
- พ่อครัวแม่ครัวตัวน้อย คือ การให้นักเรียนได้ทำอาหารเองง่าย ๆ อร่อย และมีประโยชน์ เช่น การทำแซนวิชทูน่า ถือว่าเป็นการฝึกทักษะด้านการสัมผัสด้วย
- เรื่องกล้วยกล้วย คือ การนำกล้วยนานาชนิดมาให้นักเรียนเห็นของจริงในห้องเรียน พร้อมทั้งอธิบายส่วนต่าง ๆ ของกล้วย เช่น ปลี เครือ ก้าน ใบ และกาบ เด็ก ๆ ได้สนุกกับการสัมผัส ฉีก แกะ และชิมกล้วย ไปพร้อมกับการเรียนรู้ความรู้รอบตัว
การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด
โรงเรียนพันธะวัฒนาเน้นการดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด จึงจำกัดจำนวนนักเรียนไม่ให้เกินห้องละ 30 คน และแต่ละห้องก็มีคุณครูดูแลถึง 2 ท่าน ซึ่งในแต่ละห้องเรียนคุณครูจะแบ่งเด็ก ๆ เป็น 2-3 กลุ่ม ตามความพร้อมของเด็ก ๆ และจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับกลุ่มนั้น ๆ
โรงเรียนมองเห็นเด็ก ๆ เป็นปัจเจกบุคคล นั่นคือ เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งด้านบุคลิก ความสนใจ และความพร้อมในการเรียนรู้ หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ คือ ที่นี่มีวิธีการที่แตกต่างจาก “ระบบโรงงาน” ที่ทุกคนถูกใส่ลงในพิมพ์เดียวกันและถูกผลิตให้เหมือน ๆ กัน การเรียนการสอนของที่นี่จะคำนึงถึงขีดความสามารถและจะใช้วิธีการสอนที่ดีที่สุดให้เหมาะสมกับเด็กเป็นรายบุคคล
นอกจากนี้โรงเรียนยังจัดกิจกรรมอื่นๆที่ช่วยในการพัฒนาเด็ก ได้แก่
- การเรียนภาษากับครูต่างชาติ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้คุ้นเคยกับภาษาต่างชาติทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน สามารถสื่อสารประโยคง่าย ๆ ได้
- การเรียนดนตรีสากล ซึ่งจำเป็นอย่างมากในการพัฒนาทั้ง IQ และ EQ ของเด็ก
- การเรียน computer ซึ่งได้จัดหลักสูตรที่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ
- การเรียน Mad Science ซึ่งจะเป็นการปูพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ให้นักเรียนอย่างเป็นระบบ ช่วยให้นักเรียนกล้าคิด กล้าพูด กล้าแสดงออก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย โครงการวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กเล็ก ของสมเด็จพระเทพฯ
การที่เด็กจะพัฒนาได้อย่างเหมาะสมต้องเป็นความร่วมมือของทั้งทางบ้านและทางโรงเรียน ทุก ๆ สัปดาห์คุณครูจะส่งรายงานของเด็กไปให้ผู้ปกครองได้รับทราบ หากผู้ปกครองพบปัญหาใด ๆ ของเด็ก ทางโรงเรียนจะขอความกรุณาแจ้งให้คุณครูทราบ ทั้งนี้ เพื่อจะได้ร่วมมือกันแก้ไขต่อไป เนื่องจากเด็กบางคนมีความประพฤติเวลาอยู่ที่บ้านและโรงเรียนที่แตกต่างกัน
ท้ายสุดเมื่อจบปีการศึกษา นักเรียนจะอ่านเขียนได้ จะมีคุณธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย และมีพัฒนาการที่เหมาะสมและมีความสุขในการแสวงหาความรู้ต่อๆไป